Dropshipping เป็นวิธีการขายสินค้ารูปแบบหนึ่งที่ร้านค้าไม่ได้เก็บสินค้าไว้ในสต็อก เมื่อถึงเวลาที่ร้านค้าจำหน่ายสินค้าออกไป แทนที่พวกเขาจะเอาสินค้าภายในร้านไปส่ง แต่พวกเขาจะไปซื้อสินค้าจากบุคคลที่สามและส่งให้ลูกค้าโดยตรง เป็นผลให้ผู้ประกอบการไม่จำเป็นต้องยุ่งกับการจัดการผลิตภัณฑ์ ความแตกต่างที่ใหญ่ที่สุดระหว่าง Dropshipping และรูปแบบการค้าปลีกมาตรฐาน คือผู้ค้าขายไม่มีสต็อคหรือสินค้าคงคลังของตัวเอง แต่ผู้ขายซื้อสินค้าคงคลังตามความต้องการจากบุคคลที่สาม ซึ่งโดยปกติจะเป็นผู้ค้าส่งหรือผู้ผลิตเพื่อทำตามคำสั่งซื้อ
ข้อดีข้อเสียของการทำอาชีพ Dropship
1.ใช้เงินลงทุนต่ำมากใครก็ทำได้ อาจเป็นข้อได้เปรียบที่ใหญ่ที่สุดในการทำอาชีพ Dropshipping คือเป็นไปได้ที่จะเปิดตัวร้านค้าอีคอมเมิร์ซโดยไม่ต้องลงทุนหลายหมื่นบาทในการสั่งสินค้าเข้ามาสต็อคไว้ล่วงหน้า เพราะปกติแล้วร้านค้าปลีกต้องทำการติดต่อเพื่อซื้อสินค้ามาตุนเอาไว้ในร้าน ด้วยแนวคิดแบบนี้เองที่เราไม่จำเป็นต้องซื้อของมาก่อน เว้นแต่คุณจะมีรายการสั่งซื้อและได้รับการชำระเงินจากลูกค้าแล้ว หากไม่มีการลงทุนในสินค้าคงคลังล่วงหน้าที่ใช้เงินจำนวนมาก มันเป็นไปได้ที่จะเริ่มต้นธุรกิจแบบนี้และประสบความสำเร็จด้วยเงินเพียงลงทุนเพียงเล็กน้อย
2.ค่าใช้จ่ายที่ไม่บานปลาย เพราะคุณไม่ต้องจัดการกับการซื้อสินค้าคงคลังหรือจัดจ่ายเงินเพื่อเช้าคลังสินค้า ทำให้ค่าใช้จ่ายค่าใช้จ่ายของค่อนข้างต่ำ ในความเป็นจริงธุรกิจ Dropshipping ที่ประสบความสำเร็จมากมายด้วยดำเนินการจากสำนักงานที่บ้านพร้อมแล็ปท็อปด้วยเงินลงทุนประมาณ 5,000 บาทต่อเดือน แม้ว่าในอนาคตเมื่อร้านเริ่มขยับขยายก็ไม่แปลกที่ต้นทุนจะเพิ่มขึ้น แต่เมื่อเทียบกับระบบปกติแล้วก็ถือว่าค่อนข้างที่จะต่ำกว่ามากพอสมควร
3.ง่ายที่จะขยับขยายหรือเติบโต ในทางปกติแล้วเมื่อเราขยับขยายธรุกิจ คุณก็จะต้องรับมือกับปัญหาที่มากขึ้นเป็นเท่าตัว แต่เมื่อเราพูดถึงการทำอาชีพขายของแบบ Dropship ภาระส่วนใหญ่จะไปอยู่กับผู้ซัพพลายเออร์มากกว่า มันทำให้ผู้ขายมีเวลาทำอะไรอย่างอื่นมากขึ้น ร่วมถึงมีเวลาที่จะคิดวางแผนขยายธุรกิจได้ การเติบโตของยอดขายจะนำมาซึ่งงานที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวข้องกับการบริการลูกค้า
4.ต้นทุนต่ำกว่าการขายแบบปกติ อัตรากำไรขั้นต้นต่ำเป็นข้อเสียที่ใหญ่ที่สุดในการดำเนินงานในช่องทางจัดส่งที่มีการแข่งขันสูง เพราะมันง่ายในการเริ่มต้นและค่าใช้จ่ายน้อยมาก แต่มันก็มีจำนวนพ่อค้ามากมายที่ตั้งร้านค้า และขายสินค้าในราคาที่ต่ำที่สุดเพื่อพยายามเพิ่มรายได้ พวกเขาลงทุนน้อยมากในการเริ่มต้นธุรกิจเพื่อให้พวกเขาสามารถดำเนินธุรกิจได้ด้วยกำไรที่พอประมาณ